แนะนำงาน Job Fair ของชาว Work and Travel

พี่ศิ New Step

Last updated: 23 Mar 2025

สวัสดีน้อง ๆ ที่กำลังสนใจไปเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน Work and Travel USA ทุกคน หลายคนที่กำลังมองหาโอกาสในการไปทำงานที่อเมริกาเพื่อเปิดประสบการณ์ ฝึกภาษา และได้เที่ยวไปในตัว อาจจะเคยได้ยินคนกล่าวถึงงาน Work and Travel Job Fair มาบ้าง และหลาย ๆ คนที่เคยไป Work and Travel มาแล้ว ต่างบอกว่าใครที่อยากไป Work and Travel ควรมาร่วมกิจกรรมนี้ให้ได้! เพราะเป็นโอกาสที่จะได้พบHR หรือตัวแทนนายจ้างของบริษัทชั้นนำจากอเมริกาที่บินลัดฟ้าจากสหรัฐอเมริกามาถึงเมืองไทยพบเจอกับน้อง ๆ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ Work and Travel ในแต่ละปีเลยทีเดียว

ใครอยากรู้ว่างาน Job Fair คืออะไร จัดที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไมคนอยากไป Work and Travel ถึงควรมาร่วมงาน พร้อมแล้วตามมาเลย!

นักศึกษา wonderworks usa is calling บรรยากาศ work and travel job fair 2024 2025 new step newstep

งาน Work and Travel Job Fair คืองานอะไร?

งาน Work and Travel Job Fair เป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นสื่อกลางให้นักศึกษาและนายจ้างหรือบริษัทในอเมริกาที่เปิดรับคนไทยไป Work and Travel ในปีนั้น ๆ ได้มาพบปะ พูดคุย และสัมภาษณ์งานแบบต่อหน้า (Face-to-Face Interview) โดยในแต่ละปีจะมีจำนวนบริษัทและจำนวนงานที่เปิดให้สัมภาษณ์ในงาน Job Fair แตกต่างกันไป ตั้งแต่ 40 – 60 บริษัท ซึ่งครอบคลุมหลากหลายสายงาน ไม่ว่าจะเป็น

ร้านฟาสต์ฟูด เช่น McDonald's, Taco Bell, Krystal, Pizza Hut, Five Guys
ร้านอาหาร เช่น Cheddar’s Scratch Kitchen, Bayou Bill’s Crab House, Timberwood Grill
ร้านค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ของฝาก ขนมและของเล่น เช่น SWEET!, The Paula Deen Store, Emery’s 5&10, The Island Trading Post
สวนสนุกและความบันเทิง เช่น Dollywood, The Island, Anakeesta, Silver Dollar City, WonderWorks, Lost Mine Mountain Coaster & Mini Golf
โรงแรมและรีสอร์ต เช่น Margaritaville Resort, Ramada, Courtyard by Marriott
ซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น Food City

โดยส่วนใหญ่งาน Job Fair จะเริ่มจากการนำเสนอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานที่เปิดรับโดย HR หรือตัวแทนของนายจ้างจากบริษัทต่าง ๆ แล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการสัมภาษณ์งานตามที่ได้สมัครไว้ โดยทีมงานเอเจนซี่ New Step จะทยอยเชิญน้อง ๆ เข้าสัมภาษณ์ตามลำดับ ซึ่งจะมีทั้งการสัมภาษณ์เดี่ยวและการสัมภาษณ์แบบกลุ่ม ขึ้นอยู่กับงานที่เลือก และหลังจากสัมภาษณ์งานใน Job Fair เสร็จเรียบร้อยแล้ว บางครั้งตัวแทนนายจ้างอาจจะประกาศผลการสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการเลยทันที แต่เอเจนซี่ New Step จะแจ้งผลการสัมภาษณ์งานอย่างเป็นทางการทางอีเมลภายใน 14 วันทำการ ซึ่งถือเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการสัมภาษณ์งาน เพื่อเริ่มต้นสู่กระบวนการในขั้นถัดไปซึ่งก็คือ การสัมภาษณ์วีซ่า J-1 Work and Travel กับสถานทูตอเมริกา

hr us sponsor ตัวแทน นายจ้าง นำเสนอ พรีเซนต์ work and travel job fair usa new step newstep สัมภาษณ์งาน job interview

เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปงาน work and travel Job Fair usa new step newstep

เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปงาน Job Fair

เพื่อเพิ่มโอกาสในการสัมภาษณ์งานผ่าน สร้างความประทับใจกับตัวแทนนายจ้างจากบริษัทต่าง ๆ และลดความตื่นเต้นในวันสัมภาษณ์จริง มีข้อควรเตรียมดังนี้

เตรียม Resume ให้เหมาะสมกับการสมัครงาน Work and Travel ที่สุด โดยเน้นทักษะภาษาอังกฤษ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายงาน (อ่านเพิ่มเติม: การเขียน Resume Work and Travel)
ฝึกแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ให้ฟังดูน่าสนใจ โดยเตรียมข้อมูลของตนเอง ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและงานที่สมัคร และอาจใช้วิธี STAR (Situation, Task, Action, Result) ในการเตรียมคำตอบที่เหมาะสม หากถูกถามถึงแนวคิดในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการทำงานหรือประสบการณ์ในอดีต
เลือกชุดที่สะท้อนตัวตนของตนเอง ที่มีความสุภาพ เรียบร้อย ดูทันสมัย กระฉับกระเฉง เหมาะสมกับกาลเทศะ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก้ตัวแทนนายจ้างผู้สัมภาษณ์งาน
พิมพ์ Resume มาให้พร้อม แนะนำให้พิมพ์แบบสีในกระดาษดี ๆ เพื่อให้ตัวแทนนายจ้างเห็นข้อมูลของเราได้ชัดเจน สวยงาม เกิดความประทับใจ
เช็กสถานที่และเวลาในการจัดงาน รวมไปถึงวางแผนการเดินทางให้ดี เพื่อให้ไปถึงงานได้ทันเวลา โดยแนะนำให้มาถึงสถานที่จัดงานอย่างน้อย 15 นาทีก่อนเวลานัด

Tips: สำหรับน้อง ๆ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ Work and Travel กับ New Step พี่ ๆ ทีมงานจะมีคำแนะนำการเขียน Resume การเตรียมตัวก่อนเข้าร่วมงาน Job Fair รวมถึงติวสัมภาษณ์งานกับนายจ้างทั้งแบบกลุ่มและแบบตัวต่อตัว เพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนมีความพร้อมมากที่สุดก่อนถึงวันสัมภาษณ์งานจริง

ไปงาน Job Fair แล้วได้อะไรบ้าง?

ได้เข้าสัมภาษณ์งานกับ HR หรือตัวแทนนายจ้างจากบริษัทชั้นนำถึง 40 – 60 บริษัทแบบต่อหน้า (Face-to-Face Interview) ซึ่งถือว่าง่ายกว่าการสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์ (Online) มาก เพราะไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่อาจทำให้เกิดปัญหาเสียงขาด ๆ หาย ๆ และการสัมภาษณ์แบบ Face-to-Face น้อง ๆ สามารถฟังสำเนียงภาษาอังกฤษได้ง่าย และสามารถใช้ภาษากายช่วยในการสื่อสารได้อีกด้วย
ได้ทราบข้อมูลการทำงานและสวัสดิการของแต่ละบริษัทแบบละเอียด และมีโอกาสสอบถามข้อมูลหรือข้อสงสัยต่าง ๆ กับ HR หรือตัวแทนนายจ้างโดยตรง
ได้เจอเพื่อน ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ Work & Travel เหมือนกัน ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลประสบการณ์ รวมถึงได้เจอเพื่อน ๆ ที่เลือกไปทำงานกับนายจ้างเดียวกัน ทำให้สามารถสร้าง connection แลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อ และอาจนัดวันเดินทางหรือวางแผนท่องเที่ยวร่วมกันได้

เทคนิคเด็ด ปังแน่! เมื่อไปงาน work and travel Job Fair usa สัมภาษณ์งาน job interview hr us sponsor นายจ้าง ฝรั่ง new step newstep

เทคนิคเด็ด ปังแน่! เมื่อไปงาน Job Fair

อ่านและศึกษาหน้าที่และความรับผิดชอบ (Job Description) ของงานที่เลือกอย่างละเอียด รวมถึงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ว่าเป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง เช่น ถ้าสมัครงานสวนสนุก มีเครื่องเล่นที่เป็น Signature ชื่อว่าอะไร หรือหากสมัครงานร้านอาหาร เมนูอะไรที่เป็นเมนูยอดนิยมของร้าน เป็นต้น
กล้าพูดตอบโต้ภาษาอังกฤษกับ HR หรือตัวแทนนายจ้าง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะผิดหลักไวยกรณ์ (Grammar) และหาโอกาสฝึกฝนภาษาอังกฤษในส่วนของการฟังและการพูดก่อนถึงวัน Job Fair อย่างสม่ำเสมอ เช่น ชมภาพยนตร์หรือซีรีส์เป็นภาษาอังกฤษ ฝึกพูดตอบโต้กับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ ฝึกอ่านบทความหรือข่าวภาษาอังกฤษแบบออกเสียง หรืออาจลงเรียนคอร์สการสื่อสารภาษาอังกฤษเสริมก็ได้
เตรียมคำถามสำหรับถามบริษัทไว้ เช่น ลักษณะงานเป็นอย่างไร เริ่มงานและสิ้นสุดการทำงานในแต่ละวันเวลาใด ยูนิฟอร์มเป็นอย่างไร ต้องเตรียมอะไรไปจากเมืองไทยบ้าง ที่พักและการเดินทางไปทำงานเป็นอย่างไร อะไรคือทักษะหรือคุณสมบัติที่ HR หรือตัวแทนนายจ้างมองหาสำหรับตำแหน่งงานนี้
ระหว่างสัมภาษณ์งาน อย่าลืมกล่าวคำทักทายก่อนเริ่มสัมภาษณ์งาน ยิ้มแย้ม สบตากับผู้สัมภาษณ์ ตั้งใจฟังและตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง
ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมซ้อมการตอบคำถามสัมภาษณ์งานตามที่พี่ทีมงาน New Step แนะนำ

ประสบการณ์ Work and Travel ของรุ่นพี่

เพื่อให้อินไปกับบรรยากาศ Work & Travel มากขึ้น เรามีเรื่องราวจากรุ่นพี่มาฝากกัน

พี่ "อ๋อมแอ๋ม" จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แชร์ว่า

"ตอนสมัครเข้าร่วมโครงการ Work & Travel กังวลมากเพราะไม่เก่งภาษาเท่าไหร่ แต่พอไปเจอตัวแทนนายจ้างในงาน Job Fair จริง ๆ เค้าถามแค่ไม่กี่คำถาม ส่วนใหญ่จะเป็นการให้ข้อมูลของงานและให้คำแนะนำอื่น ๆ ในการใช้ชีวิตที่อเมริกาซะมากกว่า สุดท้ายเลยได้ไปทำงานในครัวที่ร้าน Fudpucker’s Beachside Bar & Grill รัฐ Florida ตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งที่นี่ทำงานกันหนักมาก แต่เพราะมีเพื่อน ๆ คนไทยทำงานด้วยกันหลายคนคอยให้กำลังใจกัน เลยทำให้สู้งานจนจบแถมได้เที่ยวต่อแบบฉ่ำ ๆ ทุกวันนี้ภูมิใจมากเหมือนได้ข้ามขีดจำกัดตัวเอง เลยอยากบอกน้อง ๆ ว่าการไป Work & Travel ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด รวบรวมความกล้าแล้วลุยให้สุดไปเลย"

พี่ "จ๋า" จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เล่าว่า

"ตอนไปงาน Job Fair ตื่นเต้นมาก เพราะได้เข้าสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม ตอนแรกกังวลว่าเราต้องพูดแข่งกับคนอื่นหรือเปล่า แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เหมือนเค้าให้ทยอยตอบทีละคนมากกว่า และพอได้ไป Work and Travel จริง ๆ รู้สึกว่าการปรับตัวให้เข้ากับการทำงานของคนที่นู่นได้ไม่ยากอย่างที่คิด และรู้สึกว่าการไปอเมริกาครั้งนี้ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจริง ๆ เพราะต้องทำงานกับคนหลายเชื้อชาติ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ หนูรู้สึกตัวเองเปลี่ยนแปลงไปหลาย ๆ อย่าง ทั้งการสื่อสาร การทำงาน และการใช้ชีวิต"

สรุป บรรยากาศ work and travel job fair usa 2024 2025 new step newstep

บทสรุป

หวังว่าทุกคนจะเห็นภาพงาน Work and Travel Job Fair และวางแผนไปร่วมงานได้อย่างสนุกและมั่นใจมากขึ้น อย่าลืมเตรียมความพร้อมตั้งแต่ Resume ไปจนถึงเทคนิคเด็ด ๆ ในการเข้าสัมภาษณ์กับบริษัท เพราะเส้นทางสู่การเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ใกล้แค่เอื้อม

ใครมีคำถามหรืออยากแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับงาน Work & Travel Job Fair สอบถามเข้ามาได้ที่ Facebook, Instagram หรือ Line Official เรายินดีตอบทุกข้อสงสัย ใครอยากไปด้วยกันก็ทักทายได้ ;) แล้วเจอกันในงานน๊า