Five Guys ,Pier Park ,Panama City By…Sasiwan Setthawith2017

สวัสดีค่า เมืองที่เราไปมา คือ panama city beach,Florida

ไปมาเป็นปีที่ 2แล้ว เหมือนบ้านหลังที่สอง555

แต่ขอรีวิวปี 2017 ล่าสุดละกัน

รีวิวนี้เป็นประสบการณ์ตรงของเราน้า มารีวิวให้หลายๆมุม

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเด้อ รูปก็จากโทรศัพท์เราเอง

ขออนุญาตบุคคลในภาพด้วยนะคะ

เริ่มค่ะ เอเจน N..S..

**ค่าโครงการ ราคาอาจไม่เท่ากันทุกคนนะ**

แบ่งจ่ายเป็นงวดๆแล้วแต่งานที่เลือกด้วยว่า พรีเมี่ยมหรือธรรมดา

ส่วนตัวเราเลือกพรีเมี่ยม

มัดจำ – 5000

งวด 2 – 15,000

งวด 3 – 33,400 ได้ส่วนลดจากการเป็นเด็กเก่า ปกติ 39900

-ค่าวีซ่า -8900

-ค่าใบรับรองอาชญากรรม -150 ถ้าไปทำเอง รอนานประมาณ 1เดือน

ถ้าเอเจนทำให้ 1500 ไม่ต้องรอ เอเจนเมกาคือ Amerx ต้องใช้จ้า

ถ้าของ AWE ต้องใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนที่เขากำหนดมา ถ้าไม่มีก็ต้องฉีดใหม่

-ค่าถ่ายรูปวีซ่า- 230 ถ่ายใหม่ทุกปี เจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้รูปเก่านะจ๊ะ

-ค่ามัดจำบ้านล่วงหน้าก่อนเดินทางไป 300 ดอล ย้ำว่าดอล คิดเป็นเงินไทย ก็ 10,800

ได้คืน 200 หรือน้อยกว่านั้นก็ดูกันไป

-ค่าตั๋ว 47200 ขากลับเราแวะ ญี่ปุ่น 7 วันด้วย

รวมๆ แล้วก็ 120,680 บาท

-ของใช้ เสื้อผ้าก็แล้วแต่งบของแต่ละคนจ้า แต่นี่จัดเต็มมากจริงๆ5555

-พ็อกเกตแล้วแต่จะเอาไป แต่แนะนำว่าไม่ควรต่ำกว่า 3 หมื่น เพราะมันจะมีเรื่องฉุกเฉินให้ต้องใช้จริงๆนะ เราเจอทุกปี ส่วนตัวเราเอาไป 4หมื่น บาท เผื่อไว้ใช้ก่อนที่เงินเดือนจะออก รวมพ็อกเกต 160,680 บาท

 

ความพร้อมเรื่องภาษา

คนที่ไปคนเดียวที่ไม่ค่อยเก่ง ควรฝึกการพูด ฟัง และการใช้ประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสื่อสาร ได้ใช้ตั้งแต่สนามบินจนถึงการทำงานเลยนะ พอไปถึงที่ทำงานแล้วถึงจะไปกับเพื่อนแต่ทำคนละหน้าที่แน่นอน ไม่ค่อยได้คุยกันนอกจากช่วงเบรค บางทีก็เบรคไม่ตรงกัน

เอาใจช่วยน้า สำหรับคนที่อยากไปแต่กลัว พูดไม่ได้ ใช้ทุกวันเดี๋ยวก็ได้เอง ไปแล้วฝรั่งจะพยายามเข้าใจที่เราพูดแล้วช่วยสอนการออกเสียงให้ด้วย ถ้าเจอเพื่อนชาติอื่นๆก็ได้คำศัพท์ใหม่ไปอีก สนุกดี

บ้าน

วีคละ95 / 380 เดือน

ไปถึงวันแรกก็เจอพายุฝนกระหน่ำ รอต้อนรับอย่างดีแล้วเอเจนเอารถกระบะมารับ กระเป๋านี่แช่เป็นออนเซนเลยจ้า นอนได้คืนเดียวก็ย้ายบ้าน จะบอกว่าไป4เดือนกว่า เราย้ายไป4ที่ อะ ก็จะคล้ายๆโฮมเลส เร่ร่อนทั่วปานามา5555555 เจอ บ้านน้ำรั่วบ้าง เจอนั่นนี่สารพัด ส่วนนี้ไม่ขอลงรายละเอียดเยอะละกันนะเพราะมันหลายที่มาก

และเพราะบ้านไกลด้วย ดีนะมีเพื่อนฝรั่งช่วยคนช่วยย้าย พอบ้านไกลงาน2 ก็ทำลำบาก เพราะต้องเผื่อเวลานั่งรถอะไรแบบนี้

**แนะนำว่าใครลงงานแล้วรีบถามเอเจนว่าถ้าปั่นจักรยานนี่กี่นาที อย่าถามว่าไกลไหม เพราะคำว่าไม่ไกลก็ล่อไป ครึ่งชั่วโมงแล้ว****

ซิม

นี่ใช้ของ AT&T

คือใช้ โทร เน็ต และ text แบบอัลลิมิเต็ด

รายเดือน จ่ายผ่านแอป ได้ส่วนลด 5 ดอล เหลือ 43 ดอล

ถ้าจ่ายที่เคาน์เตอร์ + ไป5 ดอล

งงไหมทำไมไปจ่ายเองแพงกว่า 5555

เปิดบัญชี ธนาคาร

ปีที่แล้ว เปิด trustmark จำไม่ได้ว่ามีค่าดูแลบัญชีไหม

ปีนี้เปิด regions เราเสียค่าดูแลบัญชีเดือนละ 5 ดอล

การใช้ชีวิตที่นี่

ด้วยความที่เราเคยมาแล้วก็แนะนำเพื่อนว่ามีอะไรบ้าง ซื้อของตรงไหน พาไปเปิดบัญชี นอกนั้นก็ชิว ใครอยากไปไหนก็ไปได้ เราอยู่กันแบบผู้ใหญ่ไม่ใช่ว่าเราอยากไปตรงนั้นตรงนี้แล้วเพื่อนไม่ไปด้วย ก็ต้องงอน

พอเจอเพื่อนใหม่ก็ไปกับเพื่อนใหม่ เฮฮา ตามประสา

ก็บอกกันเอาว่าจะไปไหนทำอะไร

-เรื่องการหารของ นี่ต้องพูดตั้งแต่แรกทำความเข้าใจกับเพื่อนเพราะส่วนนี้เป็นปัญหามากกับบางคนที่เคยเห็นมา นี่กับเพื่อนเลยตกลงกันว่า ซื้อของที่ใช้รวมและซื้อของที่ชอบส่วนตัวคนละส่วน จะไม่มีปัญหาอะไรทีหลัง

-แนะนำว่าคนที่อยากมาเก็บเงินให้ทำบัญชี รายรับ รายจ่าย ช่วยได้มาก

– สมุด Date note เอาไว้แพลนตารางงานแรก กับ งานสอง

มาถึงรายได้

งานแรกรวมที่ยังไม่หักภาษีได้ 6291

งานสองทำช้าไปหน่อย มาทำช่วง 2เดือนหลัง ได้ 2065

รวมๆแล้ว 8200 * 34 = 281,656 บาทนี่คือตัวเลขยังไม่หักอะไรนะ

แต่พอเอาเข้าจริงๆ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่าย ช้อปปิ้งทุกอย่างไปก็เหลือ

ประมาณ 170, 000กว่าๆ !

รวมกับแท็กที่โดนหักไป เพราะเราโดนหักเยอะ

ก็ถือว่าคุ้มนะ

ปล. มีเพื่อนเราได้เยอะกว่านี้อีกจ้า มาปีสุดท้ายคุ้มจริงๆนะ ยิ่ง3ปีครึ่งมาไวมีโอกาสทำงานไวและทำงานสองได้ไวกว่า ซึ่งของแบบนี้ก็อยู่ที่ดวงของแต่ละคนด้วย

ถ้าใครจะไปเมืองนี้ มีอะไรสอบถามได้จ้า ช่วงปลายๆสิงหางานจะเงียบแล้ว คือมาแรกๆต้องรีบเก็บเงิน

จริงๆเมืองนี้ก็ไม่ได้มีที่เที่ยวเยอะเท่าไหร่นะ มีแต่ทะเล pier park ก็แหล่งซื้อของที่ใหญ่ที่สุด สวนน้ำไม่ได้ใหญ่อะไรมาก สวนสนุก สวนสัตว์ ผับที่คิดว่าใหญ่ที่สุดก็เฉยๆ 55555 ส่วนมากเด็กเวิร์คที่มานี่ทำแต่งานเก็บเงินเเละจองทัวร์ไปเที่ยวที่อื่นอะไรแบบนี้เอา พูดตามตรงแบบไม่อวยไรเลยเด้อ

ที่เล่านี่ก็มาจากประสบการณ์ตัวเองเรื่องมีอีกเยอะมากเเต่เอาคร่าวๆให้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเอาน้าา

อยากให้ได้ไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆด้วยตัวเอง ขอให้ทุกคนโชคดีฮะ !

ร้านเบอร์เกอร์และฟรายส์ ที่ราคาแพงที่สุดที่เคยเห็นมาแล้ว55555 มีถั่วให้กินฟรีระหว่างรอ ปล. รสชาติเหมือนถั่วดินบ้านเราเลย

ร้านนี้มี เด็กเวิร์ค 10 คน เด็กซัมเมอร์ 2เดือนอีก แบ่งชายและหญิง ชายประมาณ5-6 คน หญิงอีก 7-8 คน ไม่รวมพนักงานประจำแต่ละกะ รวมเมเนเจอร์อีก ร้านนี้เมเนเจอร์เยอะมาก แต่มีเฮดใหญ่อยู่แค่คนเดียว คือใช้คนเปลืองมากจริงๆ ปกติช่วงยุ่งๆปิดร้านเกือบ 10 หลังๆ พอจะกลับไทยละ เหลือ 4 ร้องเหี้ยหนักมาก5555555

-เรท 11.00 / overtime 16.50-17.01

ทิป – 1-6 ดอล ต่อวัน บางวันก็ไม่ได้55555

ตาลุกวาวกับเรทใช่ไหม แต่ร้านนี้ใช้งานคุ้มมากนะ เป็นทุกอย่างให้เมเนเจอร์เลยจ้า

* *ถามว่าได้ overtime เยอะไหม จริงๆแล้วแต่คนและแล้วแต่เมเนเจอร์ด้วยว่าจะให้ใครอยู่ต่อ ยุ่งมากๆก็ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวีค มีวีคที่พีคมากๆก็ 10+ แต่ไม่ได้ทุกวีคนะ**

*ตารางงาน หยุด 2 วัน (เบรค 30 นาที ไม่จ่ายเงิน แต่ทำเบอร์เกอร์ ฟรายส์ มิลค์เช็ค ออกไปกินได้ นี่เคยสั่งรวมๆแล้ว 22 ดอล ต่อมื้ออะ 555555555หน้าที่จะมี 2 กะ

แต่ละกะจะมี เมเนเจอร์อยู่อย่างน้อย 1 คน หรือมากกว่านั้น มากะไหนก็เจอเมเนเจอร์จ้าไม่ต้องห่วง

>กะเช้า<

คือทุกคนที่เข้าเช้าต้องเตรียมหั่นผักที่ต้องใช้ทำเบอร์เกอร์ (ที่นี่เวลาหยิบจับผักต่างชนิดเปลี่ยนถุงมือหมดนะ สะอาดมากก) มีประมาณ 7-8 อย่าง แล้วก็ต้องเตรียมปั้นเนื้อ ถ้าคนยุ่งมากๆก็ปั้นมือแหกแล้วก็ cut potatoes โดยมีเครื่องตัดใช้แรงคนนี่แหละ ต้องทำหมดไม่ว่าชายหญิง

ถุงละประมาณ22 กิโล บ้านเรา ต้องยกจากหน้าร้านมาทำในครัว ช่วงยุ่งมากๆนี่ทำทั้งวัน

พอเตรียมของเสร็จก็มีหน้าที่

ส่วนของ Line

ส่วนนี้จะใช้พนักงานเยอะในช่วงที่ยุ่ง คือ ลูกค้าจะสั่งผ่าน register แล้วพอลูกค้าจ่ายเงิน ก็จะตะโกนบอกจำนวนของเนื้อที่ต้องลง grill คน grill เนื้อ จะมี 1คน หรือถ้ายุ่งมากๆก็ 2คนช่วยกัน

แล้วบิลก็จะออกมาให้คนทำ Topping ว่าลูกค้าต้องการใส่อะไรบ้าง

ต่อไปคน ทำ bun คือยืนปิ้งขนมปัง เอาไว้ในคนทำ Topping

พอทำ Topping เสร็จ ก็เลื่อนไปให้ที่คนคอยห่อเบอร์เกอร์เช็คอีกทีว่าใส่ topping ถูกไหม

ในระหว่างรอเนื้อใกล้จะสุก ส่วนนี้ต้องบอกว่าลูกค้าเอา ฟรายส์ขนาดนี้ไหน จริงๆถ้ายุ่งมากๆคนทำฟรายส์ก็เดินมาดูบิลเอง ถัดจากเตา grill จะเป็นเตาฟรายส์

เมื่อห่อเบอร์เกอร์เสร็จ ใส่ฟรายส์เรียบร้อย จะมีคนคอยใส่ถุงและเรียก นัมเบอร์ของลูกค้าอีกที

มี milk shake อีกอย่างอันนี้ก็มี topping เยอะเหมือนกัน ต้องหัดปั่นจากที่ๆ ทำกินเองทุกวันอะแหละ ปั่นบ่อยๆก็เซียนไปเอง555555

นี่พยายามอธิบายเป็นขั้นตอนเพื่อไม่ให้งง เพราะนี่ไปตอนแรกงงมากเหมือนกัน คนเยอะ ไม่รู้เราจะทำหน้าที่ไหนก่อนดี แต่ทุกคนทำงานเป็นทีมเวิร์คมาก คอยสอนงานกันไปเพราะทุกคนต้องทำเป็นทุกอย่างในร้าน

ต่อไป lobby

คือ เช็ดโต๊ะ /เอาขยะไปทิ้งในครัวก่อน เพราะถังขยะที่ใช้ในร้านห้ามเอาออกข้างนอก ต้องใช้ถังในครัวเข็นออกไปทิ้งอีกที หลายขั้นตอนเนอะ/ กวาดพื้นที่มีเศษเปลือกถั่วที่ลูกค้ายืนแกะ นั่งแกะแล้วหล่นลงพื้น ,เช็ดกระจกรอบร้าน ห้ามมีรอยนิ้วมือ นี่เช็ดได้ไม่ถึง 5นาที คนจับอีกแล้ว อยากจะตีให้มือแตกจริงๆ ,เช็ด baby seat เวลาเช็ดก็ต้องลากไปเช็ดในครัวทีละตัว แล้วเดินออกมาเช็ดใหม่ / เช็คห้องน้ำทุกๆ 15 นาที เปลี่ยนทิชชู สบู่ล้างมือ ดูความเรียบร้อย/ เปลี่ยนหัวเชื้อที่ทำเครื่องดื่มต่างๆในตู้โค้ก คอยดูอันไหนหมดก็เอามาเปลี่ยน / เช็คดูหลอด ซอส แนปกิ้น ต่างๆ หมดก็เปลี่ยน

สงสัยใช่ไหมว่าคนทำหน้าที่นี้ ทำไมทำเยอะจัง นี่ก็สงสัยเหมือนกัน แล้วคนที่ทำก็คือเราเอง 55555 เจ้าแม่ lobby ไม่พอแค่นี้ เวลาทำหน้าที่ front หมด ก็เข้าไป cut potatoes ต่ออีก เวลาเข้าครัวก็ต้องใส่ผ้ากันเปื้อน เวลาออกก็ถอด วิ่งวนแบบนี้ทั้งวัน บางวันเผลอก็วิ่งออกมาทั้งผ้ากันเปื้อน นึกขึ้นได้ก็วิ่งเข้าไปถอด55555 บันเทิงสุดๆ

Back on house

หน้าที่หลักคือ ล้างจาน เตรียมของให้หน้าร้านบ้างเวลาของขาด แต่ถ้าลูกค้าเยอะหน้าที่นี้ก็จะต้องไปช่วยคนอื่นๆแทน ปล่อยไว้พอคนน้อยค่อยมาล้าง พอกลับมาอีกทีก็ร้องไห้หนักมากกกกกกกกกกกก ทำไมฉันต้องทำงานหนัก ฉันก็ไม่เข้าใจ ร้องเพลงนี้ไปทำไป

แก๊งนางฟ้ากะเช้า

กะเช้าไปแล้ว >มากะดึกต่อ<

กะดึกไม่ต้องเตรียมอะไร ถ้าของในตู้แช่ไม่หมด ถ้าหมดก็ต้องมาเตรียมเอง หน้าที่ทุกอย่างเหมือนตอนเช้า เพิ่มเติมคือต้อง ล้างทุกอย่าง ! และทำความสะอาดร้าน ซึ่งหน้าที่นี้ก็โดนมาหมดแล้ว555555

ปกติปิดร้าน 4ทุ่ม นี่ต้องวิ่งไปล็อคประตูกันละ ตรงเวลามากค่ะจุดๆนี้ เพราะอยากกลับบ้านนนนน เก็บเสร็จก็ปาไปตี 1 กว่าๆ หลังๆที่ลูกค้าน้อยก็เสร็จไม่เกิน 5 ทุ่ม

******เป็นทุกอย่างในร้าน ถ้าเป็นเมเนเจอร์ได้เป็นไปแล้ววววววว ******

จริงๆรายละเอียดเยอะกว่านี้มาก เอาไปคร่าวๆแล้วกันเนอะ นี่ขนาดคร่าวๆนะ555555555

การเดินทาง

ส่วนมากใช้จักรยาน -ซื้อได้ที่วอลมาท หรือบางคนซื้อร้านมือสองก็แล้วแต่สะดวก

Uber/ Lyft/ Taxi -ราคาขึ้นอยู่ตามระยะทาง จ่ายเงินสดและผ่านบัตร

บัส -สำหรับคนบ้านไกล มาชั่วโมงละคันของเจ้

สายเดินรถก็จะวิ่งแค่เส้นหน้าบีช คนที่ไม่ได้อยู่เส้นรถผ่านก็ลำบากหน่อย ต้องนั่ง uber อย่างเดียวไม่ก็ ปั่นจักรยาน

บัสที่นี่มาตรงบ้างเลทบ้าง 10-15นาที ก็ว่าไป แต่วันเสาร์นี่รอไป 3ชม ยังไม่มาเลยจ้า

แล้วมีสายเดียวด้วยนะ ไม่รอไม่ได้อีก บางวันรำคาญก็เรียก uber ไปทำงาน เจอหล่อๆหน่อยก็แอ๊วกันไปเด้อ ถ้าอยากอยู่ต่อนางก็แนะนำให้แต่งงานไปอีกกกกกก5555 สีสันชีวิตไปวันๆ

ราคา ถ้า J1 ราคา 75 cent

บางคันก็ให้เราจ่าย 1.25 ถ้าไม่ได้ใส่ชุดทำงานหรือแล้วแต่อารมณ์คนขับ

นี่เคยเจอแบบ หยอดเหรียญ penny ไป10 กว่าเหรียญแล้วคนขับบอกไม่ให้หยอด

นี่ก็อะจะหมดแล้ว นางก็มองแรงไปอีก นี่ก็เลยตั้งฉายา ให้ว่าลุง penny พอเจอเขาอีกก็จะได้ไม่หยอด

**จอดตามป้ายไม่จอดนอกป้ายนะจ๊ะ เคยนั่งๆอยู่มีคนอยากลงใกล้ๆที่พักตัวเอง ไม่จอดให้จ้า55555555**

จักรยานเราเองซื้อมาจากวอลมาท

ถ้าก่อนกลับใครไปขายได้ก็ถือว่าดี

ส่วนมากก็ขายไม่ค่อยได้กันนะ

เพราะส่วนมากมีแต่พวกเด็กเวิร์คกับ จาไมก้าที่ปั่น

นอกนั้น นั่งบัส และก็ขับรถส่วนตัว

ชื่อร้าน Oriental market

เจ้าของเป็นคนฟิลิปปินส์เป็นป้าแก่ๆที่เฝ้าร้านคนเดียว

เป็นอาหารกระป๋องต้องดูดีๆเพราะที่เห็นมันหมดอายุแล้ว แต่ป้าแกก็ขายอยู่ เอาสิ ประมาณว่าตาดีได้ตาร้ายก็เสียไป55555

ที่ปานามาก็ มีร้านอาหารไทย 2 ร้าน คือ ketana และ Oishi ที่มีเจ้าของคนเดียวกัน

อาหารไทยและพวก ซูชิบาร์ นี่โชคดีตรงที่มีโฮสทำงานที่นี่เลยได้กินฟรีให้พอได้หายคิดถึงอาหารไทยไปบ้าง

แล้วพวกอาหารอย่างอื่น ซื้อที่ไหนบ้าง

ส่วนมากก็ Walmart ของถูกไม่แพงมาก ถ้าจะแพงหน่อยของเกรดดีกว่าก็ plublix ,winn-dixie

ทุกอย่างพวกของใช้ขนมทุกอย่าง 1 ดอลก็มี dollar tree/ dollar general

pier park เป็นจุดรวมสินค้าแบรนด์ต่างๆ เสื้อผ้า บลาๆ

ช่วงซัมเมอร์คนจะเยอะมาก ร้านขายของนี่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเที่ยว ส่วนมากจะมาเป็นครอบครัวนะ ถ้าคิดว่าจะแอ๊วฝอเด็ดๆก็ขอให้ดูดีๆว่าเขามีครอบครัวยัง555555

งานสอง ร้าน Alvin’s island

เป็นร้านของที่ระลึก เสื้อผ้า ของเกี่ยวกับทะเลา บลาๆ เมเนเจอร์เป็นคนรัสเซีย มีพวก คาซัค ยูเครนทำงานเป็นส่วนมาก

เรท 9 / overtime 13.50 /งานนี้ไม่ค่อยได้ OT หรอกเพราะทำช่วงวันหยุดของงานแรก งานแรกเข้าบ่าย 3 ก็ต้องเลิก บ่าย 2 ได้วันละ 5-6 ชั่วโมง

กว่าจะได้ทำก็เสียเวลาไป2เดือนกับการย้ายบ้าน ตารางงานไม่ตรงเยอะแยะมากกกก

หน้าที่ก็ พับผ้า ยกของ จัดของ ปริ้นท์เสื้อในร้าน ทำงานเดิมซ้ำๆ แล้วต้องคอยสอยเสื้อให้ลูกค้าและตอบคำถามว่าสิ่งที่ลุกค้าจะเอามันอยู่ตรงไหน ซึ่งร้านแม่งมีสากกะเบือยันเรือรบ ใครมันจะไปจำได้ว้า ก็เดินหาวนไป บางทีนี่ไม่รู้จริงๆก็ให้ไปถามแคชเชียร์เอา55555 เด็กคาซัคเคยเล่าให้ฟังว่าบางทีลูกค้าถามมาก เลยตอบไปว่าไม่ได้ทำงานที่นี่ เพราะวันนั้นนางไม่ได้เสื้อของที่ร้านมาพอดี เออแล้วเราจะทำตามได้ที่ไหนล่ะ ใส่เสื้อสกรีนชื่อร้าน หรา ขนาดนี้

บรรกาศในที่ทำงานเป็นยังไง เมเนเจอร์น่ารักมากกกก ถึงบางทีจะใช้เก่งก็ตาม55555

เมจะไม่น่ารักก็ตอนจัดเวลางานนี่แหละกะเช้าได้ชั่วโมงเยอะกว่ากะเย็นแบบนี้

ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันนนนนนน

แต่อยู่แบบครอบครัวอะ บางทีทำงานอยู่น้องเรียกให้ส่องหนุ่มๆ มองเพลินจนห่อเบอร์เกอร์ไม่ใส่เนื้อให้ลูกค้าก็มี ใจลอยไปหาเธอออออ ดีที่เมไม่อยู่ แล้วคือถ้าเราทำผิดออเดอร์ จะรับของคืนไม่ได้ทำใหม่ให้อย่างเดียว

การทำงานก็มี QC มาตรวจคุณภาพอาหารและการให้บริการตลอด ถ้าได้คะแนนเต็มก็จะได้เงินโบนัสเพิ่ม ถ้าเราทำงานกะนั้นๆ ถ้าวันไหนลูกค้าเยอะก็ได้ลากยาว บางคนเข้ากะเช้า ได้ลากยาวยันปิดก็มี แต่ก็แล้วแต่ดวงอะ บางทีหงุดหงิดคนเยอะมากๆ เหนื่อย ก็หน้านิ่ง จนเมถามว่า ทำไมยูชื่อ สมาย แต่ยูไม่สมายตามชื่อเลยอะ55555

ในร้านเราจะเรียก ชื่อเวลาบ่นหรือนินทา เป็นโค้ดลับก็เฮฮาไปอีกแบบ

เพื่อนร่วมงานน่ารักมาก บ้าๆบอๆตามประสา วันไหนออฟตรงกันก็มาทำอาหารไทยกินกัน

=====================================